กริยาวลี(Frasa kerja) หมายถึง วลีที่อธิบายถึงคำกริยาหรือ
การกระทำอย่างน้อยหนึ่งคำขึ้นไป ที่ขึ้นต้นด้วยคำกริยาที่ไม่ต้องการกรรม
และสามารถประกอบด้วยคำต่างๆที่ขึ้นด้วยคำกริยาที่ไม่ต้องการกรรมและคำกริยาที่ต้องการกรรม
กริยาวลีทำหน้าที่เป็นตัวรับกรรมในประโยค
ประเภทของกริยาวลี (Binaan frasa kerja)
ประกอบด้วย 2 ประเภท
1.คำกริยาวลีที่ไม่ต้องการกรรม(frasa kerja tak transitif)
2.คำกริยาวลีที่ต้องการกรรม(frasa kerja transitif)
1.คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรม สามารถแบ่งออกเป็น 3 ชนิด
1.คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรม
ไม่ต้องการส่วนเติมเต็ม(kata kerja tak transitif tanpa pelengkap)
2.คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรม ต้องการส่วนเติมเต็ม(kata kerja tak transitif dengan
pelengkap)
3.คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรม ต้องการส่วนเติมเต็มที่เป็นคำนาม(kata kerja tak transitif dengan
kata nama sebagai penerang)
ตัวอย่าง : คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรม ไม่ต้องการส่วนเติมเต็ม(kata kerja tak transitif tanpa
pelengkap)
1.อิสมาแอกำลังผักผ่อน(Ismail sedang
berbaring)
2.ก้านต้นไม้ใหญ่นั้นหัก(Ranting pokok besar itu patah)
ตัวอย่าง : คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรม ต้องการส่วนเติมเต็ม(kata kerja tak transitif dengan
pelengkap)
1.เราไม่สามารถทำชั่วได้(Kita tidak boleh berbuat jahat)
2.ในเวลากลางคืนหาดใหญ่เต็มไปด้วยแสงสีเสียง(Pada waktu malam bermandikan cahaya)
3.แม่ของเขาเป็นครู(Ibu menjadi guru)
ตัวอย่าง : คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรม
ต้องการส่วนเติมเต็มที่เป็นคำนาม(kata kerja tak transitif dengan kata nama sebagai
penerang)
1.ชายหนุ่มมลายูคนนั้นใส่เสื้อบาติก(Lelaki melayu itu berbaju batik)
2.นักรียนกำลังเดิน(Pelajar-pelajar sedang berjalan kaki)
3. เปาะฮาซันทำสวนชา(Pak Hassan berkebun teh)
2.คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรม ต้องการส่วนเติมเต็ม(Frasa kerja yang mempunyai objak)
ในกริยาวลีนี้ คำกริยาที่ไม่ต้องการกรรมเป็นแกนหลักและคำนามวลีเป็นกรรม
ประโยคเหล่านั้นสามารถสลับกันได้
ตัวอย่าง
1.พวกเราไปทัศนศึกษาที่สวนสัตว์สงขลา(Kami lawat zoo Songkhla)
=สวนสัตว์สงขลาพวกเขาไปเที่ยว(Zoo Songkhla kami lawat)
2.พวกเขากำลังจัดบ้าน(Mereka sedang menghias rumah )
=บ้านถูดจัดโดยพวกเขา(Rumah dihias oleh kami)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น